เมซุส โอซิล มิดฟิลด์ตาโปนจากสโมสรอาร์เซน่อลในวัย 29 ปีที่เพิ่งเสร็จจากการรับใช้ทีมชาติเยอรมันในศึกฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซีย แต่ผลงานของทีมอินทรีเหล็กช่างสวนทางกับชื่อเสียงแชมป์เก่าตกรอบแรกไปแบบไม่เหลือชื่อแชมป์เก่าไว้เลย โอซิล ก็เป็นอีกหนึ่งคนที่ฟอร์มค่อนข้างน่าผิดหวัง และแตกต่างจากตอนที่เขาพาทีมคว้าแชมป์โลกมาได้ ทำให้แฟนบอลบางส่วนต่างกล่าวโทษเขาให้เป็นแพะรับบาปที่ทำให้อดีตแชมป์เก่าตกรอบอย่างน่าอับอาย รวมถึงกดดันให้เขาเลิกเล่นให้กับทีมชาติได้แล้ว
แต่ที่หนักที่สุดเป็นการที่มิดฟิลด์ตาโปนผู้นี้โดนเหยียดเชื้อชาติด้วย “มันเป้นเรื่องน่าเศร้า และเจ็บปวดใจอย่างมากสำหรับผม ผมได้คิดเรื่องนี้หลังจากที่ต้องผ่านเรื่องแย่ๆ ต่างๆ มาเมื่อไม่นานมานี้ ผมตัดสินใจที่จะไม่ลงเล่นให้กับทีมชาติเยอรมันอีก เนื่องด้วยการที่ผมโดนเหยียดสัญชาติ ไม่มีความเคารพต่อตัวผมภายในทีม ผมเคยชื่นชอบ และตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้สวมเสื้อทีมชาติเยอรมัน แต่ตอนนี้ผมไม่มีความรู้สึกแบบนั้นอีกต่อไปแล้ว การตัดสินใจครั้งนี้ถือเป้นการตัดสินใจที่ยากลำบากมากเรื่องหนึ่งในชีวิตของผม ผมพยายามทำทุกอย่าง ทุ่มเทให้กับทีม ให้กับสตาฟโค้ช และแฟนบอลที่สนับสนุนผม แต่เมื่อเบื้องบนในระดับสูงของเดเอฟเบ หรือสหพันธ์ฟุตบอลเยอรมัน ทำกับผมแบบนี้ ไม่มีความเคารพต่อเชื้อชาติรากเหง้าที่เป็นชาวตุรกีของผม และใช้ตรงนี้เป็นเครื่องมือในการหาเสียงของพวกเขา ผมจึงตัดสินใจยุติมันลงเพียงแค่นี้พอกันที การเหยียดเชื้อชาติเป็นสิ่งที่ไม่สมควรได้รับการยอมรับ” มิดฟิลด์ตาโปน เมซุส โอซิล กล่าวเอาไว้
โดยก่อนหน้านี้พ่อของเขาเองก็เคยออกมาสนับสนุนให้ลูกชายของเขาเองลาออกจากทีมชาติซะ เพราะรับไม่ได้กับการกระทำของแฟนบอล หลังงที่ลูกชายของเขาถูกแฟนบอลโจมตีอย่างหนักจากการลงรับใช้ทีมชาติในศึกฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซีย เพราะเมื่อยามที่พวกเขาได้แชมป์พวกเขากลับได้ความรัก ความชื่นชมทุกคนทั้งทีม แต่พอเมื่อผลงานแย่กลับเป็นลูกชายของเขาคนเดียวที่ต้องรับความผิดนี้ และเป็นแพะรับบาปของทีมไป
