การแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซียในรอบตัดเชือก 16 ทีมในคู่ที่สาม เป็นคู่ระหว่างเจ้าภาพรัสเซียต้องต้านทานการต่อบอลสไตล์ตีกีตาก้าของ “กระทิงดุ” สเปน ทางเจ้าภาพรัสเซียวางแผนการเล่นมาในรูปแบบรับแล้วรอสวน เน้นที่ไม่เสียประตูเพื่อไปลุ้นจุดโทษในช่วงท้ายเอา แต่ในต้นครึ่งแรกเป็น เซอร์เก อิกนาเชวิช สกัดบอลพลาดเข้าประตูตัวเองไป ก่อนที่เจ้าภาพจะมาได้ลูกตีเสมอในช่วงท้ายครึ่งแรกจากลูกโทษที่จุดโทษ
หลังจาก เคราด ปิเก้ ทำแฮนด์บอลในกรอบเขตโทษจังหวะขึ้นแย่งโหม่ง เป็น อาร์เตม ซูบา ซัดจุดโทษตีเสมอเข้าไปอย่างเฉียบขาด จนจบ 90 นาทีไม่มีผลสกอร์เพิ่มเติมต้องต่อเวลาพิเศษออกไปอีก แต่กระทิงดุก็ยังเจาะเกมรับของเจ้าภาพไม่ได้จบ 120 นาทีเสมอ 1-1 ต้องไปลุ้นลูกโทษที่จุดโทษ และเป้นทางเจ้าภาพที่แน่นอนกว่าซัดจุดโทษเอาชนะทีมยักษ์ใหญ่อย่างกระทิงดุเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายต่อไป
ถ้าพูดถึงกระทิงดุ สเปน เป็นอีกหนึ่งทีมที่มักจะแพ้ให้กับเจ้าภาพอยู่บ่อยครั้ง และในปี 2002 พวกกเขาก็เคยพ่ายแพ้จุดโทษให้กับเจ้าภาพเกาหลีใต้มาแล้วเช่นกัน และในคู่ที่สี่เป็นคู่ระหว่างโครเอเชียกับเดนมาร์ก ซึ่งจบลงด้วยผลเสมอ 1-1 เช่นกันกับคู่หัวค่ำทำให้ต้องไปตัดสินดวลลูกโทษกันในช่วงท้าย ประตูทั้งสองชาติต่างโชว์ฟอร์มเซฟช่วยทีมอย่างสุดชีวิตไม่มีใครยอมใครจนลูกสุดท้ายเป็นทางเดนมาร์กที่พลาดยิงไม่เข้าส่งผลให้โครเอเชียเอาชนะลูกโทษเดนมาร์กผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย ไปเจอกับเจ้าภาพที่เพิ่งคว่ำกระทิงดุมา ในวันที่ 8 กรกฎาคม 2561 เวลาตีหนึ่งตรงตามเวลาในบ้านเรา
ฟุตบอลโลก ปีนี้เป็นปีที่ทีมใหญ่ๆ ทยอยตกรอบกันไปในรอบแรกทั้งอาร์เจนตินา โปรตุเกส และล่าสุดสเปน ซึ่งในแต่ละทีมอาจจะเป็นฟุตบอลโลกครั้งสุดท้ายของนักเตะขวัญใจแฟนบอลหลายๆ คน ล่าสุดเมื่อคืน “มันเป็นเกมสุดท้ายของผมกับทีมชาติ ตลอดระยะเวลาของผมมันจะจบ ณ ที่แห่งนี้ ถึงแม้ว่ามันจะไม่เป็นอย่างที่ผมหวังไว้ก็ตาม” อันเดรียส อินเนียสต้า มิดฟิลด์โคตรเทคนิคชาวสเปนกล่าวไว้หลังจากที่แพ้จุดโทษให้กับทางเจ้าภาพรัสเซีย