เมื่อคืนการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ศึกแมนเชสเตอร์ดาร์บี้แมตช์ระหว่าง แมนเชสเตอร์ซิตี้ กับ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ต้องยกให้เป็นคู่ที่มีความหมายอีกคู่หนึ่ง เพราะเรือใบสีฟ้าต้องการเก็บสามแต้มให้ได้ในเอติฮัตสเตเดี้ยมของพวกเขา เพื่อที่จะฉลองคว้าแชมป์พรีเมียร์ในบ้านของพวกเขา และยังเป็นต่อหน้าทีมคู่ปรับร่วมเมืองอย่างปิศาจแดง แต่ก็ไม่ใช่งานง่ายของ เป๊ป กวาดิโอล่า นายใหญ่ของเรือใบสีฟ้า ที่พวกเขาจะต้องทำศึกยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีกเปิดบ้านต้อนรับทีมร่วมเกาะอังกฤษอย่าง ลิเวอร์พูล
ที่นัดแรกในแอนด์ฟิลพวกเขาพลาดท่าแพ้ไป 3-0 ทำให้เส้นทางบนถ้วยยุโรปของเรือใบสีฟ้าค่อนข้างเป็นงานที่หนักอย่างมาก เช่นกันทางปิศาจแดงเองก็คงไม่ต้องการให้มีใครมาฉลองแชมป์ลีกสูงสุดของเกาะอังกฤษต่อหน้าพวกเขา และจะเป็นอันดีถ้าหากพวกเขาสามารถคว้าแต้มกลับไปได้เพื่อรักษาระยะห่างระหว่างที่คู่รักคู่แค้นอย่าง ลิเวอร์พูล ที่ทำศึกเมอร์ซี่ไซด์ดาร์บี้กับเอฟเวอตันไปอย่างสุดมันจบด้วยผลเสมอ 0-0 ทำให้ หงส์แดง มีแต้มขยับตามหลังพวกเขามาเหลือแค่ 1 แต้ม
โดยรูปเกมในครึ่งแรกที่เอติฮัตสเตเดี้ยม เป็นการซ้อมเกมบุกให้กับทางเจ้าบ้านเรือใบสีฟ้าซะมากกว่า โหมบุกใส่ทีมเยือนปิศาจแดงมาเป็นชุดจนนี่สุด นาทีที่ 25 รีลอย ซาเน่ เปิดลูกเตะมุมมาจากทางซ้าย ก่อนที่กัปตันทีม แวนซอง กอมปานี จะขึ้นโขกให้เจ้าบ้านขึ้นนำ 1-0 หลังจากนั้นก็ยังเป็นเกมบุกของเจ้าบ้านเรื่อยๆ และถัดมาอีก 5 นาที อิคาย กุนโดกัน ที่รับบอลมาในกรอบเขตโทษพลิกบอลหลบกองหลังปิศาจแดงอย่างสวยงาม ก่อนที่จะยิงเล่นมุมผ่านมือ เดวิด เดแฮ เข้าไปขึ้นนำ 2-0 หลังจากนั้นก็ยังคงเป็นเจ้าบ้านที่บุกเรื่อยๆ แต่ยังเพิ่มสกอร์ไม่ได้จบครึ่งแรกไป
ครึ่งหลังไม่รู้เกิดอะไรขึ้นในห้องแต่งตัวตอนพักครึ่ง รุปเกมกลับกลายเป็นทางทีมยืนปิศาจเกมเล่นดีขึ้น จนนาทีที่ 53 พอล ป็อกบา กองกลางค่าตัวมหาศาลจะหลุดเข้าไปแบบอลตุงตาข่ายไล่มาเป็น 2-1 จากนั้นอีกไป 2 นาที ปอล ป็อกบา เจ้าเดิม ขึ้นโขกให้ปิศาจแดงไล่ตีเสมอได้สำร็จ 2-2 รูปเกมเหมือนบอลได้ใจปิศาจแดงสร้างโอกาสทำประตูเรื่อยๆ บุกแลกกันไปมากับทางเรือใบสีฟ้า
จนนาทีที่ 69 ปิศาจแดงได้ฟรีคิกจากทางด้านซ้าย ก่อนที่จะเปิดให้ คริส สมอลิ่ง ยิงประตูพลิกขึ้นนำ 2-3 หลังจากนั้นกลายเป็นสเต็ปเดิมทีมเยือนเลือกที่จะปาร์คเดอะบัสทันที และเกือบมีจังหวะเสียประตูตีเสมอให้เจ้าบ้านหลายต่อหลายครั้ง แต่โชคดีจบเกม ปิศาจแดงบุกมาพลิกชนะเรือใบสีฟ้าไปได้ 2-3
